วัดบ้านไร่ วิหารเทพวิทยาคม เที่ยววัดสวย ไหว้ให้ปังที่โคราช

สำหรับวัดสวยวัดดัง ที่จะพาไปในวันนี้คือ วัดบ้านไร่ เชื่อว่าสาย หลวงพ่อคูณ คงจะเคยได้ยินชื่อเสียงกันมาบ้านแล้ว เพราะเป็นสถานที่ ที่เกี่ยวข้องกับ หลวงพ่อคูณ เลยก็ว่าได้ วันนี้ เที่ยวแปดริ้ว เราเลยจะพามาเที่ยวกันที่ วิหารเทพวิทยาคม ของ วัดบ้านไร่ จังหวัดนครราชสีมา กัน รับรองว่ามีอะไรที่น่าสนใจอีกเยอะเลยค่ะ

ตำนานวัดบ้านไร่ โคราช นครราชสีมา

วัด บ้านไร่ ถือเป็นวัดเก่าแก่อีกหนึ่งวัด ประจำจังหวัด นครราชสีมา โดยแต่ก่อนนั้นเป็น สำนักสงฆ์เล็กๆ มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ช่วงปี พ.ศ. 2436 มีเจ้าอาวาสรูปแรกชื่อ พระอาจารย์เชื่อม วิรโช หลังจากนั้น ก็ได้มีการสร้างศาสนอาคารเพิ่มขึ้น ซึ่งในช่วงที่ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เป็นเจ้าอาวาสที่นี่ ก็เรียกได้ว่ามีการพัฒนาวัด ให้เจริญรุ่งเรืองมากที่สุด เรียกได้ว่ามีผู้บริจาค จากทั่วประเทศ เข้ามาเลยก็ว่าได้

ชมสถาปัตยกรรมสุดอลังการ ที่วิหารเทพวิทยาคม โคราช

เมื่อได้เข้ามาชมในตัวโบสถ์ ของวัดแล้ว เพื่อนๆ จะเห็นว่าบริเวณของพื้น มีการยกตัวสูงขึ้นมา และ ถูกตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบ ซึ่งในชั้นล่างนั้น จะเป็นศาลาใหญ่ ที่เป็นที่ไว้ใช้ประกอบพิธีการต่างๆ ของวัด มีพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ ศาลาปริสุทธรรม ศาลาปริสุทธาร และ ยังมีอุทยานธรรม ที่ภายหลังนั้น ได้มีการสร้างมาเป็น วิหารเทพวิยาคม นั่นเอง ในด้านนั้นก็จะมีพวก ภาพจิตรกรรม งานปูนปั้น ที่มีการประดับด้วยกระเบื้องโมเสก และ แต่ละสิ่งที่อยู่ภายในนั้น ก็จะมีคติธรรมแฝงอยู่ด้วย 

วิหารเทพวิยาคม คืออะไร

ในส่วนของ วิหารเทพวิทยาคม หรือ วิหารปริสุทธปัญญา เป็นอุทยานธรรม ที่ตั้งอยู่ตรงกลาง โดยรอบเป็นบึงขนาดใหญ่ ซึ่งบริเวณจุดนี้ ก็ยังอยู่ภายในบริเวณของวัดด้วย ตัววิหารนั้น เป็นเซรามิกโมเสกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ถูกสร้างขึ้นมาด้วยความตั้งใจ และ ถือเป็น มหาวิหารแห่งพระไตรปิฎก เลยทีเดียว ซึ่งแน่นอน ว่าที่นี่ก็ได้รวบรวมทั้งพุทธประวัติ พระวินัย และ พระธรรมคำสอน ที่แสดงไว้ทั้งหมด

และเชื่อหรือไม่ว่า วิหารเซรามิกโมเสก แห่งนี้ได้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นด้วยโมเสกกว่า 20 ล้านชิ้น โดยมีชาวบ้าน ที่มาเยี่ยมเยียนวัดแห่งนี้ เป็นผู้ที่ได้ติดเซรามิก ลงไปนั่นเอง โดยมีข้อกำหนดว่าใน 1 วัน ต่อ 1 คน จะสามารถติดเซรามิกโมเสกได้ ไม่เกิน 1 ตารางเมตรเท่านั้น ที่วิหารแห่งนี้ จึงเกิดขึ้นมาได้จากความศรัทธา เลื่อมใสของผู้ที่เข้ามายัง วัด บ้านไร่ นั่นเอง

นอกจากนี้ไฮไลท์สำคัญ ที่จะพลาดกันไม่ได้เลยก็คือ รูปปั้นพญานาค 19 เศียร เศียนช้างขนาดใหญ่ และ ประตูท้าวจตุโลกบาล เรียกได้วาเป็นสิ่งที่เพื่อนๆ ทุกคนต้องไปเห็นกันด้วยตตาเนื้อ และสัมผัสพลังของที่นี่กันเอง บอกเลยว่าอลังการ ยิ่งใหญ่ สมคำเล่าลือจริงๆ ค่ะ ซึ่งแต่ละชั้นก็ยังไม่อะไรให้ได้เดินติดตามกันอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะชั้นใต้ดินที่ถูกตกแต่งให้เป็นเหมือนชั้นดาดฟ้า ซึ่งที่นี่ก็เป็นที่ประดิษฐานของ พระพุทธรูปองค์ใหญ่ และ รูปหล่อทองคำของหลวงพ่อคูณ นั่นเอง ใครที่ได้มาบอกเลยว่าอิ่มบุญ อิ่มใจกันอย่างแน่นอน